Mulee : ตอนนี้ที่บ้านมีแพลนขยายธุรกิจให้ออกไปให้ไกลมากกว่าเป็นแค่สื่อ เลยอยากเจาะตลาดอื่นๆ ดูบ้าง มู่เป็นคนชอบเรื่องสวยๆ งามๆ ความงามแฟชั่นตั้งแต่เด็กๆ อยู่แล้ว เพราะว่าอยู่กับคุณยายที่เป็นคนรักสวยรักงาม ชอบดูแลผิว จึงตัดสินใจทำแบรนด์บิวตี้อย่างจริงจังเลยค่ะHB: ในตลาดบิวตี้ตอนนี้มีแบรนด์ใหม่และการแข่งขันสูงมา คุณมู่ลี่คิดอย่างไรกับสถานการณ์ตอนนี้
ML: ผู้ประกอบการ แบรนด์ต่างๆ เยอะมากจริงๆ แต่มู่ก็ยังมองเห็นช่องโหว่ที่ว่าแบรนด์สัญชาติไทย ทำโดยคนไทยที่เข้าใจถึงความต้องการของคนไทย จึงเลือกที่จะเล่นกับกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นจนถึง First Jobber เราจะได้ยินเมคอัพสาย ฝ. สายเกา แต่มู่ไม่อยากจับกลุ่มสายให้ลูกค้า แต่เราอยากให้เขาเป็นตัวเองที่สวยขึ้นและมั่นใจในตัวเอง สมมติลูกค้าอายุ 15 แอบแม่หรือแอบครูแต่งหน้า เราอยากสะกิดให้เขาสวยขึ้นนิดนึง ก็คิดว่าจุดนี้ทำให้ everpink ต่างจากแบรนด์ใหญ่ๆ แบรนด์แมสที่มีอยู่ในประเทศไทยHB: ทำไมถึงตั้งชื่อแบรนด์ว่า Everpink
ML: คำว่า ‘Pink’ เวลามองเผินๆ คนจะนึกถึงเด็กผู้หญิง แต่สำหรับมู่ Pink คืออีกมุมนึงขอคำว่า Happiness ความสุข ความสนุกสนาน ไม่ว่าจะจับคู่สีกับสีไหน สีชมพูก็มีแต่การสร้างความสนุกสดใสให้ ที่เราตีตัวแทนคาแร็กเตอร์ให้ลูกค้าเราเป็นสีชมพู ส่วน ‘Ever’ ก็อยู่ยงคงกระพันตลอดกาลเช่นเดียวกับคำว่า Ever green ก็เลยทำไมจะ Everpink ไม่ได้ HB: คาแร็กเตอร์ของสาว Everpink
ML: เป็นเด็กที่มีความ ‘Quirky’ หรือเป็นคนขี้เล่นแต่คำนี้เป็นพื้นฐานที่เบื้องลึกแล้วเขาเป็นคนมั่นใจในตัวเอง มีความ positive ความสร้างสรรค์ และความมี ‘เสน่ห์’ เราจะหลีกเลี่ยงคำว่าสวยเพราะเป็นอะไรที่เป็นนามธรรมและคนตีความไม่เหมือนกัน สองคำนี้จึงทำให้ดูน่าสนใจเข้าถึงได้ง่าย เราอยากผลักดันให้ผู้หญิงมั่นใจในตัวเอง ไม่ต้องวิ่งตามคนอื่นHB: จุดเด่นของไอเท็มในแบรนด์คืออะไร
ML: Multi Purpose ค่ะ คือสินค้าทุกอันเราอยากให้เป็นตัวเองอย่างสร้างสรรค์ ลิปสติกหนึ่งแท่งทำได้มากกว่าการทาปาก เราจะเอามาทาแก้ม ทาตา หรือใช้เป็นไฮไลท์ก็ได้ การทำแบบนี้ไม่ได้แปลว่าเราขี้เหนียวนะคะ แต่เราฉลาดใช้ มู่จึงเลือกผลิตสินค้าที่ใช้ได้ทั้งหน้าเลยค่ะ เช่น แปรงคาบูกิของดินสอเขียวคิ้วก็สามารถใช้เบลอลิปสติกตรงขอบปากได้ หรือเบลนด์คอนซีลเลอร์ก็ได้HB: แล้วของชิ้นแรกที่ผลิตขึ้นมาคืออะไร
ML: เริ่มด้วยดินสอเขียนคิ้วอย่างแรก เพราะว่ามู่ชอบเขียนคิ้วสุด เราค่อนข้างรู้ว่าอะไรที่เราชอบหรือไม่ชอบ เป็นผลิตภัณฑ์ที่เรามั่นใจ พอเราไปดูไปเลือกที่โรงงานก็เจอแปรงคาบูกิที่ดูน่าสนใจมาก เราเลยทำดินสอเขียนคิ้วก่อน ตามมาด้วย ลิปสติก ครีมบลัช และ Hydrating Jelly
HB: พูดถึงลิปสติกที่ทาอยู่ตอนนี้หน่อย
ML: ชื่อลิปสี Fig Jam รุ่น Comfy Matte เพราะส่วนตัวมู่เป็นคนไม่ชอบทาลิปกลอส ที่ออกนอกบ้านแล้วลมพัด ผมติดปาก แล้วมู่เป็นคนที่มีร่องที่ปากเยอะ ถ้าแมตต์แห้งเกินไปปากก็ลอก เราเลยอยากทำเนื้อแมตต์ที่เบาสบายปากและมีสารบำรุง วิตามิน อี น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน และสีนี้พิเศษมากเวลามู่ลงอินสตาแกรมสตอรี่ คนชอบถามว่าทาลิปสติกสีอะไรอยู่ แต่จริงๆ แล้วคือสีปากมู่เอง ซึ่งเป็นสีอ่อน ปากเราไม่ได้ชมพู ไม่ได้แดงหรืออะไร แต่เป็นนู้ดที่ติดกุหลาบหน่อย เลยทำสีนี้ออกมาเลยละกันHB: เป้าหมายของ Everpink ในอนาคต
ML: เราอยากแตกแบรนด์ให้เกี่ยวข้องกับความเป็นผู้หญิงในเมือง ซึ่งเป็นส่วนที่ไทยรัฐขาดหายไป ก็คือผู้หญิงในเจนเนอเรชั่นที่เด็กหน่อย เราอยากมีสายสัมพันธ์กับพวกเธอ เพราะไทยรัฐไม่ได้อยู่คู่คนไทยในอายุช่วงนี้เหมือนแต่ก่อน Everpink ก็จะเป็นอีกช่องทางนึงที่อยู่คู่กับคนไทยเจนฯ ใหม่ค่ะ