Gabrielle Chanel: Sasha / Stringer / Getty Images
Gabrielle Chanel: Apic/Getty Images
Chanel No 5 เกิดขึ้นจากเรื่องฝังใจในวัยเยาว์
เธออยากครีเอทกลิ่นหอมที่สะอาดสดชื่น ความทรงจำของสบู่ที่สัมผัสโดนผิวหลังอาบน้ำใหม่ๆ ยังตราตรึงในความทรงจำหลังจากนั้น เพราะในสมัยเด็กเธอคลุกคลีกับผู้หญิงชั้นสูงที่มีกลิ่นมัสก์ผสมกลิ่นตัวเหม็นแสบจมูก จึงทำให้เธอตั้งภารกิจในการทำน้ำหอมใสสะอาด ที่แสนท้าทายเพราะมีความยากในการหานักปรุงน้ำหอมแนวนี้ระหว่างที่เธอไปทริปพักผ่อนกับคนรักอย่าง Grand Duke Dimtri Pavlovich ในช่วงซัมเมอร์ของปี 1920 ที่ Cote d’Azur เธอได้ค้นพบนักปรุงน้ำหอมที่มีคาแรกเตอร์ในการสร้างกลิ่นที่สลับซับซ้อนชื่อ เออเนสต์ โบซ์ (Ernest Beaux) ผู้เคยทำงานกับราชวงศ์รัสเซีย ที่อาศัยอยู่ใกล้เมืองกราสส์ เมืองศูนย์กลางแห่งกลิ่นหอม เขารับโจทย์ท้าทายมาจากกาเบรียล ชาเนล ในการสร้างกลิ่นหอมนี้ขึ้นมา
ภาพแคมเปญของช่างภาพชาวอเมริกัน Weegee ถ่ายรูปนางแบบในขวด No 5 ในช่วงปลายยุค 1950’s: Weegee(Arthur Fellig)/International Center of Photography/Getty Images
Chanel No 5 ความผิดพลาดครั้งสำคัญแห่งประวัติศาสตร์น้ำหอม
เออเนสต์ใช้เวลาหลายเดือนในการครีเอทกลิ่นที่เพอร์เฟ็กต์ที่สุด 10 กลิ่น ที่ตั้งชื่อเป็นตัวเลข 1-5 และ 20-24 โดยมาดามกาเบรียลได้เลือกกลิ่น No 5
กล่อง No 5 ต้นตำหรับจะไม่มีตรา No 5 อยู่ก้นกล่อง แต่ต่อมาก็ได้นำมาใช้จนถึงปัจจุบัน: John Sunderland/The Denver Post via Getty Images
Philippe Guy Bourget อาร์ทิสติกไดเร็กเตอร์แห่ง Chanel ในโชว์ Haute-Couture Automne-Hiver 1979-80, : Daniel SIMON/Gamma-Rapho via Getty Images
Jacques Polge นักปรุงน้ำหอมแห่งชาเนลในปี 1982 : Gamma-Rapho via Getty Images
Carole Bouquet เพื่อ Chanel No 5: API/Gamma-Rapho via Getty Images
กาเบรียล ชาเนล ได้ให้ความนิยามกับน้ำหอม No 5 นี้ว่า “น้ำหอมสำหรับผู้หญิง ที่มีกลิ่นอายความเป็นอิสตรี"
Marilyn Monroe ยังเป็นแฟนตัวยงของ Chanel No 5 และถือเข้าฉากในภาพยนตร์เรื่อง Cat On a Hot Tin Roof ปี 1955: Ed Feingersh/Michael Ochs Archives/Getty Images
Kaia Gerber ในโชว์ Chanel Metiers d'art 2019-2020: Stephane Cardinale - Corbis/Corbis via Getty Images
น้ำหอม Chanel No 5 ครบรอบ 100 ปี
ในวาระครบรอบ 100 ปี น้ำหอมขวดเหลืองอันเป็นเอกลักษณ์ได้ถูกปรับปรุงด้วยการลดทอนความเป็นแป้งให้เข้ากับกาลเวลาสมัยนี้ เทคโนโลยรฮัลดีไฮด์ยังคงอยู่ ร่วมด้วยความหอมของช่อดอกไม้อย่างเมย์โรส จัสมิน ร่วมด้วยความสดใสของซิตรัสเป็นท็อปโน้ต ซึ่งประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ย่อยๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเจลอาบน้ำ โลชั่นทาผิว สเปรย์น้ำหอมสำหรับผม และอื่นๆ อีกมากมายสมกับความเป็นน้ำหอมสุดไอคอนิกที่ครองใจสาวๆ ทุกยุคได้อย่างแท้จริง